รถคันแรก – ปรากฏการณ์แรก

June 22nd, 2015

รถยนต์คันแรกจากแนวคิดประชานิยมของรัฐบาลชุดปัจจุบันได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยหรืออาจจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของโลกที่จะต้องถูกจารึกไว้

ตัวเลขยอดขายล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 มีผู้จองและซื้อรถยนต์คันแรกตามนโยบายคืนภาษีไม่เกิน 100,000 บาทสูงถึง 1,250,000 คัน

คิดเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลกว่า 700,000 คัน

คิดเป็นรถกะบะเพื่อการพาณิชย์กว่า 200,000 คัน

และที่เหลืออีกประมาณเกือบ 300,000 คัน เป็นรถกะบะที่เรียกว่า Cab

จากการรายงานของยอดขายทั้งหมด 1,250,000 คัน

70% ของรถยนต์คันแรกจะอยู่ในต่างจังหวัด

ส่วนที่เหลืออีก 30% จะอยู่ในกรุงเทมหานคร

ยอดเงินภาษีที่ทางรัฐบาลจะต้องนำคืนให้กับเจ้าของรถยนต์คันแรกทั้งหลายมีมูลค่าสูงถึง 90,000 ล้านบาท

เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่มียอดจองและสั่งซื้อรถยนต์ที่สูงที่สุด ไม่ว่าจะถูกจัดอยู่ในรถยนต์ประเภทใดก็ตาม ไม่รวมยอดจองและสั่งซื้อจากรถยนต์ที่ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์คันแรก

ผมลองคิดคำนวนเล่นๆดู

เอา 1,250,000 คันตั้งและคูณด้วยความยาวโดยเฉลี่ย 3 เมตรต่อคัน

ความยาวทั้งหมดจากรถยนต์คันแรก 1,250,000 คัน จอดชิดๆกัน จะได้ความยาวทั้งสิ้นถึง 3,750,000 เมตร หรือ 3,750 กิโลเมตร คิดเป็นความยาวของระยะทางจากกรุงเทพฯ เลยประเทศไต้หวันไปหน่อย เกือบจะเข้าประเทศญี่ปุ่น หรือเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไป-กลับ เชียงใหม่ 6.5 เที่ยว

น่ายินดีด้วยกับพนักงานในบริษัทค่ายรถยนต์ต่างๆ โดยเฉพาะที่มีรุ่นประเภทไม่เกิน 1,500 ซีซีจำหน่าย ต่างได้รับโบนัสก้อนโตไปเป็นค่าตอบแทนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาด เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะรักหรือเฉยๆกับรัฐบาลชุดนี้ ผมยืนยันได้ว่าไม่มีใครที่จะปฏิเสธขอเสนอแนวคิดประชานิยมรถยนต์คันแรกนี้ได้อย่างแน่นอน

ในมุมของการสร้างแบรนด์ถือได้ว่าแนวคิดประชานิยมสอบผ่าน เปรียบเสมือนกับการทำโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคและที่สำคัญคือการทำ CRM (Customer Relationship Management) ในกลุ่มผู้บริโภคปัจจุบันให้เกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์นั้นๆเพื่อไม่ให้ผูบริโภคของตนหันเหความสนใจจากสินค้าหรือบริการของตนไปซบอกคู่แข่งในที่สุด

ผู้บริโภคมักชอบแนวคิดลด แลก แจก แถม

เป็นเรื่องปกติของผู้ประกอบการที่จะปล่อยทีเด็ดกลยุทธ์เหล่านี้ออกสู่ตลาดเพื่อดึงดูดความสนใจในการแข่งขัน เพื่อให้ตนสามารถรักษาฐานอำนาจในการเป็นผู้นำในตลาด

ไม่มีผู้บริโภคคนใดที่จะไม่ยอมรับเงื่อนไขประเภทลด แลก แจก แถม ต่อให้ผู้บริโภคคนนั้นมีสถานะทางสังคมสูงส่งเพียงใดก็ตาม

เฉกเช่นเดียวกับนโยบายประชานิยมรถยนต์คันแรก

คนส่วนหนึ่งก็มีปัญญา มีฐานะที่ดีทางสังคม แต่ท้ายสุดคนมีฐานะเหล่านี้ก็ตกหลุมพรางหาทางครอบครองสถานะการเป็นเจ้าของรถยนต์คันแรกไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม

ผมเห็นคนต่างความเห็นกับรัฐบาลชุดนี้ไปถอยรถยนต์คันแรกกันมามากพอสมควร ปากก็ว่าแต่ตาก็ขยิบ

เหมือนกับกลไกของการตลาดที่มีการแข่งขันเพื่อครอบครองความเป็นที่ หนึ่ง

ผมเองก็เป็นคนปกติคนหนึ่งในสังคมปัจจุบัน

วันนี้จงรักภักดีกับแบรนด์สินค้าแบรนด์หนึ่ง

ชมเช้า ชมเย็น ชมแบบออกนอกหน้า จนเพื่อนพากันหมั่นไส้ แถมยังดูถูกเหยียดหยามแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของแบรนด์ที่ผมใช้อีกต่างหาก

เพียงไม่กี่วันผ่านไปแบรนด์คู่แข่งมีการจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม ที่มีทีเด็ดเหนือกว่าและมากกว่าแบรนด์ที่ผมใช้อยู่ปัจจุบัน

ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ผมกระโจนเข้าไปหาแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งนั้นทันที

ไม่มีศัตรูที่แท้จริง และไม่มีมิตรที่ถาวร คงเป็นวลีที่ศักดิ์สิทธิ์เหนือสิ่งใด

ผมเชื่อว่าหลังจากที่คุณได้ครอบครองรถยนต์คันแรกที่คุณเพิ่งจะถอยออกมาจากอู่

เพียงไม่กี่วันถัดไปคุณก็จะลืมคุณงามความดีของแบรนด์รัฐบาลชุดนี้ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีจิตใต้สำนึกที่เป็นผู้บริโภคตัวจริง จะโทษ จะโกรธพวกเขาไม่ได้

นโยบายประชานิยมรถยนต์คันแรกเพียงแค่สอบผ่าน

เราต้องคอยดูในฉากต่อไปว่าจะมีผลลัพธ์อะไรที่จะตามมาในเชิงโอกาสและหายนะ

คุณเคยเห็นไหมว่าผู้ประกอบการบางรายต้องถึงขนาดกลับบ้านเก่าเพียงเพราะต้องการขายสินค้าของตนให้ได้มากๆ มีส่วนแบ่งการตลาดมากๆ และเพียงเพื่อให้ผู้บริโภครักเขามากๆ โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาในระยะยาว

เพื่อความเป็นธรรมกับนโยบายประชานิยมรถยนต์คันแรก

โอกาสที่จะตามมาในระยะสั้นและในระยะยาวก็คือ ผลพลอยได้ในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ที่รถยนต์ทุกคันจำเป็นจะต้องมีการประกันภัยตามกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้นใดก็ตาม

และยังมีอีกหลากหลายธุรกิจที่ได้รับอนิสงค์จากนโยบายรถยนต์คันแรกเช่น

ไฟแนนซ์รถยนต์ ประดับยนต์ อุปกรณ์เครื่องเสียง วีดีทัศน์ในรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง อู่ซ่อมบำรุง อะไหล่ ยางรถยนต์ ทางด่วน พลังงาน และแน่นอนกรมการขนส่งทางบกที่มีบทบาทและหน้าที่ในการต่อทะเบียนรถยนต์ทุกคันในประเทศไทย แต่ก็ไม่รู้ว่าได้คุ้มมากกว่าเสียหรือเปล่าเพื่อแลกกับเงินภาษีสรรพสามิตที่ต้องคืนเป็นวงเงินสูงถึง 90,000 ล้านบาท

หลายสำนัก หลายแหล่งข่าวได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราสามารถสร้างระบบขนส่งมวลชนได้หนึ่งเส้นทาง ประมาณว่าเส้นทางที่เป็นสีใดสีหนึ่งได้อย่างสบาย

คงมีข้อโต้แย้งจากผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดว่าแล้วพวกเขาจะได้ประโยชน์อะไรจากการสร้างระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตที่ส่งให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนต่างจังหวัด

ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด แต่อย่าลืมว่าการจราจรในกรุงเทพฯ ณ วันนี้ที่ยังไม่มีรถยนต์คันแรกอีก 1,250,000 คันที่กำลังจะออกมาวิ่ง ก็ทำให้ชีวิตของคนเมืองสาหัสมากพอสมควรอยู่แล้ว

คุณเคยคิดไหมว่าปัญหาที่จอดรถซึ่งไม่เพียงพอในการรองรับจำนวนรถยนต์ในปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นหายนะที่ใหญ่หลวงมาก

คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมคงจะรู้ดีว่าคุณจะนำรถยนต์คันใหม่ไปจอดที่ไหนในสภาพของคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนที่จอดรถแบบจำกัด

ไม่ต้องกล่าวถึงที่จอดรถในสำนักงานที่ปัจจุบันก็วนหาที่จอดรถกันเป็นเวลานานจนทำให้พนักงานบริษัทหลายคนต้องเข้าทำงานสายกันเป็นแถว

มีหลายคนบอกว่าปี 2556 จะเป็นปีแห่งรถยนต์มือสองในราคาที่ถูกเพราะเจ้าของรถยนต์คันแรกมีปัญญาจอง มีปัญญาถอยออกมาแต่อาจจะไม่มีปัญญาผ่อนในระยะกลางจนถึงระยะยาว

คล้ายๆกับวัฏจักรทางการตลาด

ระบบผ่อนส่งหรือเงินผ่อนในทุกอุตสาหกรรมเป็นห่วงโซ่ของโอกาสและอุปสรรค

สุดท้ายก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ได้เปรียบกว่าและคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจจะเสียเปรียบกว่า

ผมลองคิดเล่นๆดู

ภายในสิ้นปี 2556 นี้บริษัทยางรถยนต์ ประกันภัยรถยนต์ ไฟแนนซ์รถยนต์ ประดับยนต์ พลังงาน หรือแม้กระทั่งบริษัทท้วงหนี้ตามหนี้ คงมียอดรายได้ผลประกอบการที่ดีเกินคาด ส่งผลให้พนักงานต่างรับทรัพย์กันถ้วนหน้า

อย่าลืมเตรียมซื้อหุ้นในบริษัทพลังงานเพราะถ้าคิดสมการกันเล่นๆ รถยนต์ 1 คันเพียงใช้น้ำมันแค่ 5 ลิตรต่อวัน บริษัทพลังงานก็จะขายน้ำมันได้เพิ่มขึ้นอีก 6,250,000 ลิตรต่อวัน หรือ 2,300 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็นรายได้ 80,000 ล้านบาทต่อปี (โดยค่าเฉลี่ยของราคาน้ำมันทุกประเภท)

ผมว่าคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯกำลังเผชิญกับคุณภาพชีวิตที่แย่ลง

คนกรุงเทพฯมีชีวิตที่สั้นลงเพราะคุณต้องติดอยู่ในรถยนต์ที่นานมากขึ้นบนท้องถนน

ทุกวันนี้เวลาผมเดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงตี 5 ที่สวนทางกับคนที่ต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อมาทำงาน

ผมจะเห็นรถยนต์หนาแน่นติดอยู่บนทางด่วนในช่วงเข้าเมืองตั้งแต่เวลาตี 5

คุณลองนึกดูสิว่าคนเหล่านี้เขาจะต้องตื่นตีเท่าไหร่

ชีวิตมีแต่ลำบากขึ้นและลำบากขึ้น

อยากให้ภาครัฐบาลแก้ปัญหาให้ถูกจุด

น่าจะลองตั้งโจทย์ดูว่าจะทำอย่างไรให้พวกเราไม่ต้องมีรถยนต์

เหมือนกับในประเทศญี่ปุ่นหรือในยุโรปที่ผู้คนสามารถนั่งรถไฟหรือขี่จักรยานเข้ามาทำมาหากินในเมืองได้

อย่าเพิ่งท้อขอให้ทุกคนสู้ต่อไปครับ

Categories: Uncategorized | No Comments

J.I.B. COMPUTER GROUP 22/04/2015

April 25th, 2015

Brand Strategy Management Workshop – Day 2IMG_2402 IMG_2407

Categories: Uncategorized | No Comments

INDEPENDENT COMMUNICATION NETWORK CO., LTD. 20/04/2015

April 25th, 2015

Strategic Brand  Workshop & Seminar.IMG_2378 IMG_2379 IMG_2385 IMG_2394 IMG_2401

Categories: Uncategorized | No Comments

HOLIDAY INN RAYONG 03/04/2015

April 25th, 2015

See you in 2017. One of the most trendiest hotels in The Eastern Seaboard.
IMG_2476 Under construction

IMG_2502Mock-up Room

IMG_2505New concept of hotel room.

Categories: Uncategorized | No Comments

RE-BRANDING LAEMTONG RAYONG

April 25th, 2015

Dr. Sohn Chongsrichan and the owner of Laemtong Department Store & Shopping Plaza inspecting front area of the building which will soon be transformed into a new shopping destination experience concept.
2 April 2015
IMG_2466

IMG_2468

IMG_2473

IMG_2474

IMG_2484

Categories: Uncategorized | No Comments

LAEMTONG RAYONG

April 25th, 2015

BrandClinic & Advisory session for Laemtong Shopping Plaza & Department Store in Rayong on 2 April 2015.IMG_2460

IMG_2464

IMG_2478

IMG_2494

IMG_2496

Categories: Uncategorized | No Comments

แบรนด์เล็กจะอยู่รอดได้อย่างไร? (ตอนที่ 1)

April 20th, 2015

ผมหมายถึงแบรนด์ของธุรกิจ SME

ผมเห็นใจแบรนด์เล็กๆของเหล่าบรรดาผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ผมลองถอดรหัสความอยู่รอดของแบรนด์เล็กบนพื้นฐานของทฤษฎีแนวคิด 6P’s ดู

1. Product สินค้าหรือผลิตภัณฑ์

ผู้ประกอบการ SME มีงบประมาณที่น้อยกว่าบริษัทระดับประเทศหรือบริษัทข้ามชาติ

นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์แปลกๆใหม่ๆบนตัวสินค้าส่วนใหญ่จะได้มาจากการทำ Research & Development ที่มักจะตามมาด้วยงบประมาณที่สูง

แบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ไม่ได้มีเพียงแค่ 1 หรือ 2 R&D Center ที่อยู่ในแค่ 1 หรือ 2 ประเทศ แต่กลับมี R&D Center ที่ถูกกระจายออกสู่ทั่วทุกทวีปทั่วโลก ที่แสดงถึงศักยภาพในการศึกษาและเข้าถึงพฤติกรรมที่แท้จริงของผู้บริโภคในทุกความต้องการ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกทัศนคติ เป็นต้น

การมี R&D Center ที่ครอบคลุมในหลากหลายประเทศ ย่อมสร้างความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่ง ที่สุดท้ายก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในเชิงประสิทธิภาพ คุณประโยชน์ สรรพคุณ หรือคุณลักษณะ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้ดีกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า

แบรนด์ใหญ่ย่อมได้เปรียบในการเป็นที่ยอมรับในคุณภาพ

คุณภาพมาจากการยอมรับในวงกว้าง

คุณภาพมาจากการได้รับความไว้วางใจ

แบรนด์ระดับโลกหรือระดับประเทศที่ได้รับการไว้วางใจหรือเป็นที่ยอมรับ มีขีดความสามารถในการเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้บริโภคได้มากกว่าอีกเช่นเดียวกัน

แบรนด์ระดับโลกหรือระดับประเทศมักจะได้รับการรับรองจากหลากหลายสถาบันที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าในอุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งส่งผลไปยังภาพลักษณ์ของสินค้าที่มีคุณภาพเป็นเลิศ

การเกิดขึ้นของสินค้าใหม่ในโลกมีให้เห็นกันอยู่ทุกวัน และก็ล้มหายตายจากให้เราเห็นกันอยู่ทุกวันเช่นเดียวกัน

หายนะที่เกิดขึ้นกับความยั่งยืนของแบรนด์มาจากความไม่มีตัวตนของแบรนด์ที่ไร้ความแตกต่าง และไร้ซึ่งความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภค

แบรนด์ของผู้ประกอบการ SME จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความแตกต่างและโดดเด่นแบบที่แบรนด์ใหญ่แบรนด์ดังไม่สามารถจะเทียบชั้นได้

ผมขอชื่นชมแบรนด์อย่าง Harnn และ Thann ที่ปัจจุบันสามารถพาตัวเองออกนอกประเทศไปจำหน่ายอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก

ถามว่าผู้ประกอบการ SME รายอื่นๆในประเทศไทยสามารถผลิตสินค้าแบบ Harnn และ Thann ได้หรือไม่?

คำตอบคือสามารถทำได้อย่างแน่นอน

แต่ผมเชื่อว่าความสามารถในการผลิตคงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดในการทำธุรกิจ

สิ่งที่สำคัญกว่าการผลิตสินค้าขึ้นมาได้ 1 ตัว คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองให้แตกต่างและโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

ปัจจุบันใครๆก็สามารถจะหาโรงงานผลิตสินค้าให้กับตัวเองได้ หรือที่เราเรียกว่า OEM

บทบาทของแบรนด์เป็นมากกว่าสินค้า

ความสำเร็จในระดับโลกของแบรนด์ Harnn และ Thann ไม่ได้มาจากความเป็นเลิศของคุณภาพเพียงอย่างเดียว

หีบห่อที่ถูกออกแบบอย่างสวยงาม ประณีต และการวางตำแหน่งของสินค้า การสร้างบุคลิกของตัวสินค้าที่ไปไกลมากกว่าตัวตนของสินค้าที่พึงจะเป็น ทำให้แบรนด์ทั้ง 2 นี้ มีคุณค่าที่สูงส่ง เหนือระดับ มีมูลค่าในตัวสินค้าที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่งในตลาด ซึ่งท้ายที่สุดได้ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่นิยมในกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหนียวแน่น

อีกหนึ่งในหลายๆแบรนด์ไทยที่ผมต้องขอชื่นชมคือ

ร้านอาหาร MK

ผมเชื่อว่าแบรนด์นอกที่เป็น chain ร้านอาหารระดับโลกคงต้องขอคิดพิจารณาใหม่ในการบุกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ในรูปแบบร้านอาหารประเภทนี้

แน่นอนฝรั่งไม่ได้เก่งเรื่องสุกี้หรือเป็ดย่าง

แล้วทำไมแบรนด์ chain ร้านอาหารจากฮ่องกงถึงไม่คิดที่จะมาเปิดในประเทศไทยบ้าง

ร้าน MK มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงพฤติกรรมการกินของคนไทย

เข้าใจในตัวตนของคนไทย

ร้าน MK มี Brand Equity ที่ชัดเจนมากแบรนด์หนึ่งในระดับประเทศ

เมื่อเอ่ยถึงร้าน MK คุณนึกถึงอะไร

จากผลสำรวจที่ผมเคยทำมาล่าสุดผู้คนจะคิดถึง

สุกี้ เป็ดย่าง น้ำจิ้ม พนักงานเสิร์ฟออกมาเต้น บะหมี่หยก รอยยิ้ม ครอบครัว ถาด คอนโด นานาชาติ เป็นต้น

ร้าน MK Brand Equity ไม่จบลงตรงที่ร้านอาหารที่ขายเพียงอาหารประเภทสุกี้เท่านั้น

ร้าน MK เป็นมากกว่าร้านอาหารประเภทสุกี้ Brand Equity ไปไกลถึงระดับนานาชาติ เพราะมีสาขากระจายอยู่ในต่างประเทศ

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากความสำเร็จของร้าน MK คือ เขาได้สร้างแบรนด์อย่างเป็นระบบ เขาได้ทุ่มเททั้งเวลาและนวัตกรรมที่สามารถคิดได้ เพื่อสร้างความเป็นที่ 1 ให้กับธุรกิจของตัวเอง

นวัตกรรมเล็กๆน้อยๆที่หลายคนจะมองข้ามก็คือการที่พนักงาน MK ออกมาเต้นเพียงแค่ระยะเวลาเพียงแค่ 1-2 นาที ที่สร้างความประทับใจ ความสุขให้กับแขกที่มารับประทานอาหาร

ไม่ต้องใช้นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์จากองค์การอวกาศ NASA

เพียงแค่เอาผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง แล้วเอาใจเราไปใส่ในใจเขา

คุณคิดว่าถาดใส่อาหารในรูปแบบคอนโดเป็นนวัตกรรมไหม แล้วสิ่งเล็กสิ่งน้อยอีกอย่างที่ทำให้ร้าน MK อยู่ในใจของผู้บริโภคตลอดเวลา ก็คือสลิปกระดาษใบเล็กๆที่บอกถึงปริมาณของคุณค่าอาหารที่เรารับประทานเข้าไป

สลิปกระดาษชิ้นเล็กๆเพียงชิ้นเดียว บ่งบอกถึงความเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพของผู้บริโภค

ราคาอาหารคุ้มค่าไม่แพงจนเกินไปที่ใครๆก็เอื้อมถึง ทำให้ร้าน MK เป็นร้านอาหารสำหรับทุกเพศ ทุกวัย สำหรับทุกๆคนในครอบครัว

สาขาที่ครอบคลุมในทั่วทุกพื้นที่ประเทศไทย เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เป็นการสร้างการรับรู้ได้อย่างชัดเจน ตัวร้าน MK เปรียบเสมือนกับชิ้นงานโฆษณาขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในทุกพื้นที่

ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนคงไม่มีใครที่ไม่เคยแวะเข้าไปกินอาหารในร้าน MK

อยู่ที่ว่าคุณจะแวะเข้าไปกินบ่อยมากน้อยเพียงใด

พูดกันเล่นๆได้ว่า ถ้าใครไม่เคยกิน MK คนคนนั้นคงจะไม่ใช่เป็นคนไทย

2. PRICE – ราคา

แบรนด์เล็กตั้งราคาตามอำเภอใจไม่ได้

บ่อยครั้งแบรนด์เล็กจะต้องดูทิศทางลมจากแบรนด์ใหญ่เป็นหลัก

แบรนด์ใหญ่เขามีราคาขายตั้งอยู่ที่ 100 บาท แบรนด์เล็กก็จะตั้งราคาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความกล้าของผู้ประกอบการ

อะไรคือปัจจัยที่แบรนด์เล็กของผู้ประกอบการ SME ไม่สามารถเรียกราคาได้สูงกว่า

คำตอบก็คือ ทำไมผู้บริโภคถึงต้องซื้อสินค้าที่ไม่มีคนรู้จักในราคาที่สูงกว่าแบรนด์ที่ใครๆก็รู้จัก

ผมเห็นร้านขายพิซซ่าแบรนด์ท้องถิ่นในบางจังหวัด ยังไงก็ไม่สามารถตั้งราคาได้สูงกว่า The Pizza Company ไม่ว่าเขาจะมีคุณภาพหรือรสชาติที่ดีอย่างไร เพราะเขาพยายามลอกเลียนแบบโลโก้ การตกแต่งร้าน หรือแม้กระทั่งเมนูอาหาร

ในขณะที่แบรนด์พิซซ่าอย่าง Scoozi ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เล็กกว่าสามารถความสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน จนเรียกราคาต่อถาดได้สูงพอสมควร

สุดท้ายความแตกต่างในตัวสินค้าก็ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดราคาที่สูงขึ้นได้

ในบางโอกาสแบรนด์เล็กก็มักจะถูกแบรนด์ใหญ่รังแก

แบรนด์ใหญ่เกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมา ก็เลยลดราคาลงมาเสียดื้อๆ ฆ่าตัดตอนไม่ให้แบรนด์เล็กเกิด

มีใครไม่ชอบของถูกบ้าง

คุณภาพพอๆกัน หน้าตาพอๆกัน แต่ราคาถูกกว่า ใครใครก็แห่กันไปซื้อแบรนด์ที่ถูกกว่าแต่คุณภาพพอๆกันอย่างแน่นอน คงไม่ต้องพูดถึง Brand Image ที่แบรนด์ใหญ่ได้เปรียบกว่าแบรนด์เล็กอยู่เสมอ

ในทางตรงกันข้าม Harnn และ Thann ไม่เคยลดราคาลงมาสู้กับใครเลย เขาสามารถรักษาระดับของราคาได้เป็นอย่างดี

ร้าน MK ก็เช่นกันไม่เคยมีราคาแบบลดกระหน่ำ ยกเว้นแต่บัตรสมาชิกที่สร้างความสัมพันธ์แบบ Customer Relationship Management กับลูกค้าไว้อย่างเหนียวแน่น

(โปรดติดตามตอนจบในฉบับหน้าครับ)

Categories: Uncategorized | No Comments

Nao Global Brand Strategy Management Workshop

March 30th, 2015

Nao Global Brand Strategy Management Workshop on 30 March 2015

Categories: Uncategorized | No Comments

Saeng Haeng Sattha

March 30th, 2015

Saeng Haeng Sattha Visit on 25 March 2015

Categories: Uncategorized | No Comments

OCS CareVersation Day 1

March 30th, 2015

OCS CareVersation Day 1 at The Campus, The Grand Hyatt Hotel on 23 March 2015

Categories: Uncategorized | No Comments