นวัตกรรม…นวัตธรรม

August 24th, 2011

นวัตกรรม (Innovation) ตามความหมายจากพจนานุกรมแปลว่าสิ่งใหม่ วิธีการใหม่ การนำสิ่งใหม่หรือวิธีการใหม่เข้ามา (Change, Alteration, Transformation)

นวัตกรรมต่างๆในโลกถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่ตามมา

แต่ในอีกแง่คิดนึง นวัตกรรมได้ถูกนำมาเป็นกลยุทธ์และอาวุธที่สำคัญอันหนึ่งต่อองค์กรในด้านการแข่งขันเพื่อนำพาให้องค์กรนั้นๆสามารถครอบครองความเป็นผู้นำในธุรกิจได้

การเป็น ผู้นำในธุรกิจหมายถึง ความได้เปรียบในเชิงพาณิชย์ ที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ ภาพพจน์ และท้ายสุดได้สร้างความจงรักภักดีในกลุ่มผู้บริโภค

บ่อยครั้งที่ผู้บริโภคยึดติดกับความเป็นที่หนึ่งของแบรนด์ต่างๆ

ผู้บริโภคน้อยรายที่จะลุ่มหลงและหลงใหลต่อแบรนด์ที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีใครรู้จัก ความคุ้นเคยและเคยชินเป็นปัจจัยหลักซึ่งนำมาถึงความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจและความภูมิใจในกลุ่มผู้บริโภค

นวัตกรรมเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองเห็นคุณค่าและชื่นชม แต่มีใครเคยคิดถึงการทำธุรกิจที่นำทั้งนวัตกรรมและนวัตธรรมควบคู่กันไปหรือเปล่า

นวัตธรรมคืออะไร

ความหมายและที่มาของคำว่า “ธรรม” ในภาษาไทยมีความหลากหลายในความเข้าใจ ในแต่ละมุมมอง ภาษาไทยมีเสน่ห์ที่คำหนึ่งคำสามารถถอดรหัส แปลความได้ในหลากหลายมิติ เมื่อคำ 2 คำถูกนำมาเชื่อมกัน

คุณธรรมและศีลธรรมในการทำธุรกิจที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีอยู่ในสายเลือด คุณธรรมและศีลธรรมเปรียบเสมือนบันไดขั้นแรกที่ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องเหยียบเพื่อก้าวขึ้นต่อไปยังขั้นบันไดที่สูงขึ้น

นวัตธรรมเป็นพื้นฐานของขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและศรัทธาจากบรรพบุรุษมาสู่มนุษย์ที่ดำรงชีวิตในปัจจุบัน

คนไทยมีวัฒนธรรมรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก

คนไทยมีวัฒนธรรมในการไหว้ต่อผู้หลัก ผู้ใหญ่หรือคนที่เราเคารพรักที่แสดงออกถึงมิตรไมตรีและมารยาทในสังคม

แต่ก็น่าเสียดายที่บ่อยครั้งเราไม่ได้รักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมเหล่านี้ให้อยู่อย่างยั่งยืนต่อไป

คนไทยยังใส่สูทผูกเนคไทเข้าประชุมสภา ในขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่นักการเมืองในประเทศฟิลิปปินส์หรือมาเลเซีย ใส่ชุดประจำชาติไปไหนมาไหนแทนการใส่สูทผูกเนคไท ที่ดูอุ้ยอ้าย แสนจะอึดอัด ไม่สบายตัว

ธรรมชาติเป็นสิ่งที่มนุษย์จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัย เพราะธรรมชาติให้สิ่งดีๆกับเรา โดยเฉพาะการดำรงชีวิตอยู่ให้รอดปลอดภัย

สินค้าหลายชนิดถูกสร้างขึ้นจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ เช่นอาหารการกิน เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค เป็นต้น

ธรรมชาติให้ทั้งคุณและในขณะเดียวกันก็ให้ทั้งโทษ แต่มีหลายทฤษฎีบอกไว้ว่า ธรรมชาติจะไม่รังแกชาวโลก ถ้าชาวโลกไม่เป็นฝ่ายรังแกธรรมชาติก่อน เหมือนกับเหตุการณ์น้ำท่วม แผ่นดินถล่มในหลายประเทศเมื่อปลายปี 2553 จนถึง ต้นปี 2554

และอีกหนึ่งคำของธรรมที่ถูกหล่อหลอมให้อยู่กับชาวพุทธมาโดยตลอดต่อเนื่องหลายพันปีคือ “ธรรมะ” ที่เราชาวพุทธถือปฏิบัติในการบำเพ็ญกุศล ปฏิบัติในสิ่งที่ดีไม่เบียดเบียนผู้อื่น

โดยสรุปนวัตธรรมน่าจะแปลว่าการนำสิ่งใหม่ หรือวิธีการใหม่เข้ามาใช้ควบคู่ไปกับการคงไว้ซึ่งสิ่งดีๆไม่เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันหรือเปล่า

ที่จริงแล้วในหลวงของเราได้ฝากปรัชญาหนึ่งไว้ให้กับชาวไทยและชาวโลกเมื่อหลายปีก่อน ด้วยคำจำกัดความแบบสั้นๆและเข้าใจง่ายกว่าคือ เศรษฐกิจพอเพียงในการทำธุรกิจ และชีวิตที่พอเพียงในการดำรงชีวิต ในมุมมองของผู้บริโภค

นวัตธรรมในธุรกิจ

มีตัวอย่างของแบรนด์ที่ผมขอยกย่องเป็นพิเศษในการทำธุรกิจแบบนวัตธรรม เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว แบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน Happy ได้ปล่อยแคมเปญโฆษณา 1 ชุด ที่มีตัวแสดงเอกเล่นเป็นนักร้องระดับซุปเปอร์สตาร์ของเกาหลี (Rain) ออกมาร้องรำทำเพลงที่พยายามจะสื่อให้ผู้บริโภคทราบว่าการโทรศัพท์หากันไม่จำเป็นต้องคุยกันนานๆ ไม่จำเป็นต้องโทรหากันบ่อยๆ แบบที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆว่าโทรให้กระจาย SMS กันให้แหลกลานในสื่อโฆษณา

เนื้อหาโดยสรุปในแคมเปญโฆษณาชุดนี้คือ แต่ถ้าจำเป็นก็โทร ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องโทร และต้องโทรแบบพอเพียงอย่าสุรุ่ยสุร่าย

Happy เป็นแบรนด์อันดับต้นๆของประเทศไทย

ผมเชื่อว่าคนส่วนมากจะรู้จักแบรนด์ Happy ในฐานะที่เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน

และถ้าคุณจะลองถามเพื่อนๆว่าสีแดงมี Brand Association กับแบรนด์อะไร ผมกล้ายืนยันได้ว่า แบรนด์ Happy จะหลุดออกมาอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ร่วมกับแบรนด์ ดังๆระดับโลก เช่น Coke หรือ KFC

เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ประกอบการจะต้องเสียเงินไปกับการสร้างแคมเปญโฆษณาหลายสิบล้านบาท แต่กลับเชื้อเชิญให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภค “โทรกันอย่างพอเพียง!”

รายได้หลักจากแบรนด์ Happy มาจากการที่ผู้บริโภคโทรกันมากๆไม่ใช้หรือ ยิ่งโทรกันกระจายเพียงใดรายได้ก็ย่อมได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้งอกงามเป็นกอบเป็นกำ และมั่งคั่งในที่สุด

และเมื่อประมาณปลายปี 2553 DTAC ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Happy ก็ได้ปล่อยแคมเปญโฆษณาออกสู่สาธารณชนอีก 1 ชุดที่มีชื่อว่า Disconnect to Connect (ปิดเพื่อเปิด) โดยมีเนื้อหาสาระในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ว่าความสัมพันธ์ ความรักและสายใยที่คน ควรจะมีให้กันกลับถูกปิด โดยที่มีฝ่ายหนึ่งมัวลุ่มหลงอยู่กับการส่งข้อความผ่านเครื่องรับ-ส่งโทรศัพท์ประเภทหนึ่ง โดยที่ไม่ใส่ใจต่อคนข้างเคียง หรือคนในครอบครัว วันๆไม่ทำอะไรยกเว้นแต่รับ-ส่งข้อความผ่านเครื่องรับ-ส่งโทรศัพท์ประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมในวงกว้าง ในทุกกลุ่มอายุและเพศที่มีสถานะทางสังคมค่อนข้างไปทางมีอันจะกิน เหลือกินเหลือใช้

ในช่วงท้ายของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ตัวแสดงทั้งหลายที่เมามันอยู่กับการรับ-ส่งข้อความได้หยุดพฤติกรรมเหล่านั้น ส่งผลให้ความสัมพันธ์ ความรักและสายใยในครอบครัว หรือระหว่างคนรักกลับสู่สภาพปกติ มีรอยยิ้ม

สิ่งที่ผู้ประกอบการรายนี้และอีกหลายๆรายที่ผมไม่ได้ยกมาเป็นตัวอย่าง ได้นำสิ่งใหม่หรือวิธีการใหม่เข้ามาใช้ควบคู่ไปกับการคงไว้ซึ่งสิ่งดีๆต่อสังคมในรูปแบบนวัตธรรม

เสีย (รายได้) เพื่อได้ (ชื่อเสียง)

ธุรกิจในอดีตมักมุ่งหวังกับการครอบครองส่วนแบ่งการตลาดให้สูงที่สุด

ธุรกิจในอดีตมักมุ่งหวังรายได้จากยอดขายให้ได้มากที่สุด

แนวคิดในการทำธุรกิจยุคใหม่อาจจะไม่ได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนแบ่งการตลาดหรือการมียอดขายที่สูงที่สุดอีกต่อไป แต่กลับหันไปมุ่งเน้นในการเป็นองค์กรแห่งความดี มีนวัตธรรมเพื่อเสริมสร้างหรือเพียงเพื่อขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สังคมและสิ่งแวดล้อมดีขึ้นอีกสักนิดอีกสักหน่อย

ผมเชื่อว่าหลายองค์กรชั้นนำกำลังเร่งสร้างแนวคิดของ Share of Heart มากกว่า Share of Market

เมื่อใดที่แบรนด์อยู่ในใจของผู้บริโภค เมื่อนั้นผู้บริโภคจะกลายพันธุ์สู่สภาพเป็นสาวกในที่สุด

การตลาดที่แท้จริง คือการที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน มีจุดยืนของสินค้าที่โดดเด่น

เป็นไปไม่ได้ที่ใครสักคนจะยึดตลาดและผู้บริโภคทั้งหมดไว้ได้เพียงคนเดียว อย่างที่รู้กันในรูปแบบ STP (Segmentation, Targeting, Positioning)

แนวคิดยิ่งน้อยก็ยิ่งมาก อย่างทฤษฎีพาเรทโต้ 20:80 เป็นตัวตอกย้ำถึงการที่แบรนด์จะต้องมีคุณธรรม ความดี ติดตัวอยู่เสมอ ขอให้มีลูกค้าแค่ 20 คนใน 100 คน แต่ใช้ 80 ใน 100 ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างจีรังยั่งยืนไม่ใช่หรือ

Categories: Articles Anything | No Comments

Don’t miss!!! งานสัมมนาในหลักสูตรปัญญาบัตร

August 16th, 2011

สวัสดีคะพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านที่สนใจงานสัมมนาดีๆจากทางอาจารย์สรณ์ จงศรีจันทร์ของพวกเรา ตอนนี้เราได้จัดหลักสูตรปัญญาบัตรแบบใหม่มาให้สำหรับท่านที่ติดปัญหาในการที่จะต้องลงทั้งคอร์ส (ระยะเวลา 6 เดือน)

ครั้งนี้เราได้แบ่งแยกออกมาเพื่อความสะดวกของทุกท่าน โดยจะจัดแบ่งออกเป็นหลักสูตร (2 ครั้งใน 1 เดือน) โดยที่ท่านจะสามารถลงทะเบียนเรียนเป็นหลักสูตรๆไปคะ

หลักสูตรที่ 1 คือ เรื่องแบรนด์นั้นสำคัญไฉน

เรียนวันเสาร์ที่ 15 และ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 9.00 น – 16.00 น.

ณ ซัมเมอร์เซ็ท พาร์ค สวนพลู

ค่าสัมมนา 7,000 บาท + VAT 7%

หากท่านใดสนใจเข้าร่วมและสะดวกในวัน-เวลาดังกล่าว สามารถติดต่ออ้อได้ที่ 089-9238330 หรือ atchara@brandanything.biz คะ

หมายเหตุ หลักสูตรนี้ไม่สามารถเปิดได้หากผู้เข้าร่วมมีจำนวนต่ำกว่า 40 คนนะคะ

Categories: Uncategorized | No Comments

Centure บุกเยี่ยมชมการทำงาน DTAC

August 16th, 2011

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท Centure และ บริษัทในเครือ คือบริษัท First Chapter และ F1

งานนี้นำทีมโดยอาจารย์สรณ์ จงศรีจันทร์ คุณอังาณา และจีจี้ (ต้อนรับกลับเมืองไทย :) ) ของพวกเราอีกเช่นเคยนะคะ ^^ คณะผู้ติดตามนำทีมโดยคุณเซ้งและคุณนกค่ะ

บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินภายในบริษัท กว้างขวางจริงๆคะ

มีมุมสำหรับเล่นดนตรีกันด้วยนะคะ เก๋ไก๋มากค่ะ

ที่สำคัญอีกมุมหนึ่งคือห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้นั่นเอง เพื่อให้ทุกคนได้พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ช่างน่าประทับใจจริงๆคะ

คณะผู้เยี่ยมชมดูตื่นตา ตื่นใจกับสิ่งที่ได้พบเห็นกันมากทีเดียว :)

ถึงเวลาที่จะได้รับฟังเรื่องราวดีๆจากวิทยากรของทาง DTAC ได้ประโยชน์กันไปมากทีเดียว (รับรองว่าจะต้องทำให้ดีอย่างเค้าบ้างให้ได้)

คุณนกและคุณเซ้งผู้บริหารของ Centure ค่ะ ถ่ายภาพร่วมกับวิทยากรของ DTAC ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับคณะเยี่ยมชมค่ะ ^^

ต้องขอขอบพระคุณ DTAC เป็นอย่างยิ่งนะคะ ที่ให้โอกาสผู้ประกอบการ SMEs ได้เข้ายี่ยมชมบริษัท สถานที่ทำงาน ร่วมทั้งวิทยากรที่น่ารักที่ได้มาให้ความรู้ ความเข้าใจในการบริหารงานองค์กรใหญ่ระดับประเทศ รวมทั้งเปิดโอกาสได้ซักถาม ^^

โอกาสหน้าหวังว่าผู้ประกอบท่านอื่นๆ จะได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมกันอีกนะคะ

Categories: Uncategorized | No Comments

K BANK CUSTOMER SOLUTIONS RAYONG

August 8th, 2011

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางธนาคารกสิกรไทยได้จัดงานสัมมนาลูกค้า ผู้ประกอบการเสริมกลยุทธ์มัดใจลูกค้า สร้างธุีกิจทะยานไกล ณ จังหวัดระยอง

อีกครั้งที่ทางอาจารย์สรณ์ จงศรีจันทร์ของพวกเราได้จับมือกับทางธนาคารเสนอสิ่งดีๆให้กับผู้ประกอบการทุกท่าน ที่อยากจะพัฒนาธุรกิจของท่านให้ก้าวไกล ไปถึงฝั่งฝัน

งานนี้ทางธนาคารได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดีๆจากทางธนาคารด้วยนะคะ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ SME ทุกท่านที่สนใจคะ

โดยงานนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากมายเลยทีเดียว

แล้วมาติดตามอัพเดทข่าวสารงานสัมมนาดีๆจาก Brand Anything กันใหม่นะคะ รับรองว่าจะนำเสนอแต่สิ่งดีๆ ให้ทุกท่านแน่นอนคะ

Categories: Uncategorized | No Comments